ไม่มีรายการ

ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะพอใช้ยามเกษียณ?
17 กุมภาพันธ์ 2565
เคยสงสัยกันใช่มั้ยครับ
ว่าวันหนึ่งถ้าเราเกษียณแล้ว
ควรมีเงินเก็บเท่าไหร่
หรือมีรายได้เข้ามาเท่าไหร่
เพื่อให้พอใช้จ่ายในยามเกษียณ
วันนี้ #LUMPSUM จะพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อมกันครับ
กรองแก้ว อายุ 25 ปี ตั้งใจเกษียณตอนอายุ 55 ปี โดยคาดว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อหลังเกษียณอีก 20 ปี ถ้ากรองแก้วมีค่าใช้จ่ายปัจจุบัน 30,000 บาท/เดือน ค่าใช้จ่ายหลังเกษียณของกรองแก้วจะเท่ากับ 70% ของค่าใช้จ่ายปัจจุบัน ซึ่งเท่ากับ 21,000 บาทต่อเดือน (70% x 30,000)
ปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อ 3% ต่อปี เงิน 21,000 บาท ในปัจจุบันจะมีค่าประมาณ 38,000 บาท ซึ่งคิดเป็นค่าใช้จ่ายหลังเกษียณปีละ 456,000 บาท
นั่นหมายความว่า ตอนอายุ 55 ปี กรองแก้วควรจะมีเงินออมแล้ว 9,120,000 บาท ( 456,000 x 20) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว และเมื่อกรองแก้วนำเงินก่อนนี้ไปใช้จ่าย เงินจะหมดลงไปเรื่อย ๆ
หากกรองแก้วเลือกออมเงินด้วยการฝากออมทรัพย์ (อัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี) กรองแก้วจะต้องออมเงินถึงเดือนละ 37,062 บาท เพื่อบรรลุเป้าหมายเงิน 9,120,000 บาท ในเวลา 20 ปี
แต่ถ้ากรองแก้วเลือกนำเงินออมไปลงทุนต่อ (ให้เงินทำงาน) เช่น คาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ยช่วงหลังเกษียณที่ 6% ต่อปี ดังนั้น จำนวนที่ต้องมี ณ วันเกษียณจะเท่ากับ 7,600,000 บาท
ในช่วง 20 ปี ก่อนเกษียณ หากกรองแก้วปั้นพอร์ตโดยคาดหวังผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี จะใช้เงินลงทุนเดือนละประมาณ 10,000 บาท เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเงิน 7.6 ลบ. ในเวลา 20 ปี (แล้วค่อยปรับพอร์ตลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงน้อยลงในช่วงเกษียณ ทำให้เหลือผลตอบแทนคาดหวังเฉลี่ย 6% ต่อปี) แถมวิธีนี้เงินต้นก็จะยังคงอยู่ต่อไป สามารถส่งต่อเป็นมรดกได้อีกด้วย
เทคนิควางแผนการออมและการลงทุนเพื่อเกษียณอย่างมีความสุข
1. ควรออมก่อนใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ โดยออมเงินสำหรับการเกษียณให้ได้อย่างน้อย 5-10% ของรายได้ หากรายได้เพิ่มขึ้นก็ควรออมเพิ่มขึ้น และไม่ควรนำออกมาใช้จนกว่าจะเกษียณ (ควรเริ่มต้นตั้งแต่ทำงานมีรายได้)
2.ควรแบ่งเงินออมเพื่อเกษียณบางส่วนไปลงทุน เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น ภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทสรุป : ต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะพอใช้ยามเกษียณ
- ออมเงินด้วยการฝากออมทรัพย์ ต่อเดือนต้องออมเงินมากกว่า
- ควรวางแผนเกษียณด้วยการลงทุน ใช้เงินลงทุนต่อเดือนน้อยกว่า แถมส่งต่อเป็นมรดกได้ด้วย